ทุกวันนี้เราไม่เพียงแต่ใช้อินเตอร์เน็ตในการรับส่งอีเมล์เท่านั้น แต่ยังใช้ซื้อของ ชำระสินค้า โอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์ และอื่นๆ ดูเหมือนว่าประตูที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้นจะพาเราท่องไปทุกแห่งในโลกได้ แต่อย่าลืมว่าประตูบานเดียวกันนี้ก็นำโลกทั้งโลกมาหาคุณโดยไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน
เรื่องต่อไปนี้จะช่วยให้คุณได้รู้ว่าที่ผ่านๆ มานั้นคุณเข้าใจและตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ดีแค่ไหน แล้วคุณจะประหลาดใจว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรผิดๆ ในบางเรื่องมาโดยตลอด
1. ฉันติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเรียบร้อยแล้ว
คุณคิดถูกแล้ว....คุณต้องการระบบที่คอยป้องกันไวรัสไม่ให้เข้าไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่แค่มีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นคุณจึงต้องหมั่นอัปเดตรายชื่อไวรัสใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
อีกประการหนึ่งแฮกเกอร์ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามเช่นเดียวกัน และพวกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ที่แฮกเกอร์วางแผนจู่โจมได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องการนอกเหนือจากซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสก็คือระบบไฟล์วอลล์ที่จะคอยหยุดยั้งไม่ให้แฮกเกอร์เจาะเข้าระบบเพื่อขโมยข้อมูลต่างๆ ออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้
2. เครื่องคอมพิวเตอร์ของฉันไม่มีข้อมูลอะไรน่าสนใจสำหรับแฮกเกอร์หรอก
ทุกคนเชื่ออย่างนั้นแต่หารู้ไม่ว่าแฮกเกอร์จ้องจะขโมยข้อมูลบางอย่างที่คุณคิดว่าไม่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น เลขประจำตัวบนบัตรประชาชน บัตรประกันสังคม หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัสผู้ใช้ และรหัสผ่าน สิ่งเหล่านี้แฮกเกอร์สามารถนำไปใช้เพื่อซื้อของหรือทำธุรกรรมต่างๆ ในนามของคุณได้นั่นเอง คดีเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย และถึงแม้คุณคิดว่าไม่ได้เก็บข้อมูลเหล่านี้ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่รู้หรือไม่ว่าแค่คุณเก็บแฟ้มประวัติสำหรับใช้สมัครงาน คุณก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ได้ เพราะมันจะนำข้อมูลเช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ บัตรประชาชนเพื่อนำไปสมัครบัตรเครดิตหรือกู้ยืมเงินได้ และนั่นหมายถึงความเดือดร้อนต่างๆ กำลังจะตามมาหาคุณในไม่ช้า
3. มีแต่บริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้นแหละที่แฮกเกอร์ตั้งเป้าจู่โจม ผู้ใช้งานตามบ้านอย่างเราไม่ใช่เป้าหมายของแฮกเกอร์หรอก
หลายๆ คนมักคิดว่าฉันจะกังวลไปทำไม ในเมื่อฉันใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมกับส่งอีเมล์เท่านั้นคุณอาจจะลืมไปแล้วว่าแฮกเกอร์มักจ้องหาเหยื่อที่โจมตีได้ง่าย และการเจาะเข้าระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ตามบ้านนั้นก็ง่ายกว่าการเจาะเข้าระบบองค์กรที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณใช้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต เพราะเครื่องของคุณจะออนไลน์ตลอดเวลา ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจึงเป็นเป้าหมายที่โจมตีได้ง่ายที่สุด และกว่าคุณจะรู้ตัว เครื่องของคุณก็อาจจะโดนแฮกไปเรียบร้อยแล้ว
4. การเป็นแฮกเกอร์ต้องมีความรู้เทคนิคสูงๆ
เป็นความเชื่อที่ผิดมาก ในทางตรงกันข้ามคุณเชื่อหรือไม่ว่าพวกแฮกเกอร์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านไอทีระดับอัจฉริยะเพื่อทำการเจาะเข้าระบบต่างๆ เลย เพราะเพียงแต่คุณค้นหาคำว่า “Hacking tools” ในเสิร์ชเอ็นจินต่างๆ คุณก็จะพบเครื่องมือและวิธีในการเจาะระบบที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง แถมบางเว็บไซด์ยังระบุวิธีการและขั้นตอนในการทำงานอย่างละเอียดมาให้เรียบร้อย
5. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ฉันใช้อยู่มีระบบป้องกันไวรัสและไฟล์วอลล์มาให้เรียบร้อย
โดยทั่วๆ ไปแล้วน้อยรายนักที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจะให้บริการติดตั้งระบบป้องกันไวรัสที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ผู้ใช้บริการเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจคุณอาจจะตรวจสอบกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของคุณ และถึงแม้ว่าผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจะมีระบบป้องกันที่ดีแล้วก็ตาม คุณก็ยังจะต้องติดตั้งระบบป้องกันไวรัสไว้บนเครื่องของคุณอยู่ดี คุณอาจจะตั้งคำถามว่าทำไม ก็เพราะว่าเมื่อคุณเริ่มทำการออนไลน์ คุณมีความเสี่ยงที่จะดาวน์โหลดไวรัสลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ตั้งใจ
6. ฉันไม่ได้ใช้บริการบรอดแบนด์ แต่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดย dial-up จึงไม่ต้องกังวลว่าจะตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์
เป็นความจริงที่ว่าผู้ใช้บริการบรอดแบนด์จะมีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะ IP Address จะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง เมื่อแฮกเกอร์รู้ มันจะเจาะเข้ามาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับว่ามันรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน ในขณะที่การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยการ dial-up นั้น IP Address จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามแฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าไปในระบบของคุณได้ มันจะทำการฝังโปรแกรม Trojan ซึ่งจะทำการส่งสัญญาณกลับไปยังระบบของแฮกเกอร์ เมื่อใดก็ตามที่คุณทำการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต ดังนั้นถ้าระบบของคุณมีโปรแกรมตัวนี้ฝังอยู่ล่ะก็ไม่ว่าจะใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์หรือ dial-up ก็ไม่แตกต่างกัน
7. หายห่วงฉันใช้เครื่องแมคอินทอช ไม่ใช่วินโดวส์
ผู้ใช้แมคอินทอชทั้งหลายมักรู้สึกปลอดภัย เพราะเจ้าไวรัสเกือบทุกประเภทถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเป้าโจมตีไปที่ระบบแพลตฟอร์มวินโดวส์เป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับแฮกเกอร์แล้ว นี่ไม่ใช่ประเด็นเลย คอมพิวเตอร์ก็คือคอมพิวเตอร์เพราะมันไม่แคร์ว่าคุณจะอยู่บนแพลตฟอร์มใด
ปัจจุบันเครื่องมือในการเจาะเข้าสู่ระบบแมคอินทอชก็หาดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตได้ไม่ยากนัก แถมยังใช้ง่ายอีกต่างหาก ยิ่งกว่านั้นระบบปฏิบัติการใหม่ของเครื่องแมคอินทอชอย่าง OS X ก็เป็นระบบ Unix based ซึ่งทำให้เครื่องมือที่แฮกเกอร์ใช้เจาะเข้าสู่ระบบ Unix มาช้านาน สามารถใช้ได้กับเครื่องแมคอินทอชเช่นเดียวกัน
เป็นอย่างไรบ้างครับ คราวนี้คุณจะได้แน่ใจจริงๆ เสียทีว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณนั้นปลอดภัยจริงๆ อย่างที่คุณเข้าใจมาโดยตลอดหรือไม่ ถ้าไม่คุณจะได้รีบหาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและระบบไฟล์วอลล์ที่สมบูรณ์มาติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ทันท่วงที และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสำนึก และตระหนักด้านความปลอดภัยข้อมูลของเรา โดยต้องหมั่นสังเกต และตรวจสอบสิ่งผิดปกติโดยสม่ำเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น